ยุคของการตลาด Marketing 6.0 “ทันใจ ฉับไว ทันที และปลอดภัย”
ยุคของการตลาด Marketing 6.0 “ทันใจ ฉับไว ทันที และปลอดภัย”
ฉบับนี้มาเปิดมุมมองวิวัฒนาการการตลาดกันครับ การตลาด ก็คือ เครื่องมือในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ได้ยอดขายและผลกำไรตามที่ต้องการ โดยการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย โดยเริ่มจากการมองหาสิ่งที่เป็นความต้องการ หรือปัญหาของลูกค้า แล้วจึงตอบสนองต่อความต้องการ หรือช่วยแก้ปัญหานั้นๆ ของลูกค้าด้วยการสร้างคุณค่า สื่อสารกลับไปให้ลูกค้ารับรู้ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ และเกิดการซื้อ หรืออาจเป็นการนำเสนอประสบการณ์ที่ดีคุณค่าใหม่ๆ
แล้วเราจะทำการตลาดอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ ผมได้ศึกษาความรู้ด้านการตลาด ทราบว่าความสำเร็จของการทำธุรกิจ ขึ้นกับอำนาจที่อยู่ในมือของผู้บริโภค การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน การตลาดต้องทำบนเทคโนโลยีและต้องมีนวัตกรรม ดังนั้นถ้าเราเป็นนักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจ ต้องเข้าใจกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มีรูปแบบเป็นผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่มีทัศนคติที่ว่า “เทคโนโลยีจะทำให้ชีวิตดีขึ้น” ซึ่งถ้ามองย้อนดูจากวิวัฒนาการทางตลาดยุค 1.0 จนถึงการตลาดในปัจจุบันที่ผมคิดว่าถึง 6.0 กันแล้ว จะเห็นวิวัฒนาการดังนี้ คือ
ในยุคการตลาด1.0 หรือ Marketing 1.0
คือการพัฒนาการหลักของการตลาด 1.0 คื่อการเน้น ย้ำ และโฟกัสไปที่การขายแบบกลุ่มใหญ่ เลือกใช้สื่อที่สามารถเจาะกลุ่มตลาดได้กว้าง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ เน้นขายของ เน้นปริมาณยอดขาย เพื่อลดตต้นทุนในการผลิต ผสมกับโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาซื้อของกันอย่างมากมาย
Marketing 2.0
พอมาถึงช่วงของการตลาด 2.0 เราจะสังเกตุได้จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับคำว่าบริการ Service Mind มากขึ้นหรือการให้บริการเป็นหลักสินค้าผลิตภัณฑ์อาจคล้ายกัน แต่การบริการต้องแตกต่างกันมาเป็นที่ 1 บริการหลังการขายจึงเป็นส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค
Marketing 3.0
ต่อมาด้วยกับช่วงของการตลาด3.0 หรื่อช่วงเวลาที่เทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตเริ่มถูกเข้ามานำมาใช้และนำเสนอสินค้าและบริการในวงกว้าง ธุรกิจและแบรนด์ต้องหาทางใกล้ชิดกับผู้บริโภค โดยการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อโซเชีบลมีเดีย Social เรียกได้ว่าธุรกิจหรือแบรนด์ใครเริ่มก่อนหรือทำสิ่งที่แตกต่างก่อน ผู้นั้นจะได้โอกาสครอบครองตาดวงกว้างได้ก่อนในที่สุด
Marketing 4.0
สําหรับการตลาด 4.0 คือยุคที่เทคโนโลยีถูกพัฒนาไปไกล และมีผลกระทบไม่ใช่ต่อการตลาด การประชาสัมพันธ์ หรื่อการขายของออนไลน์ โดยที่ดิจิทัลมี่สวนที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกจิ สาธารณสุข สังคม การท่องเที่ยว การบิรหารระหว่างผระเทศอย่างเห็นได้ชัด ในยุคของการตลาด 4.0 เป็นส่วนที่ให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น พร้อมกับสถิตของผู้บริโภคในโลกออนไลน์ เพื่อนํามาประกอบในการวางแผนกลยุทธ์ทั้งการออกแบบสินค้า การออกแบบการขายเพื่อให้ธุรกิจและแบรนด์สามารถความสัมพันธ์อันดีอย่างต่อเนื่องกับผู้บริโภคได้
Marketing 5.0
เป็นยุคของการตลาด 5.0 ที่แพลตฟอร์มธุรกิจและแบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่ม สร้างความสะดวกสบาย ประสบการณ์ที่ดี และมีการเก็บข้อมูล (Data) เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ยุคนี้หัวใจของการทำการตลาดเนื้อเป็นสิ่งที่สำคัญหรือที่เรียกว่า Content is King ซึ่ง “เนื้อหา” คือกุญแจดอกสำคัญที่ส่งเป็นข้อมูลออกไปถึงกลุ่มเป้าหมายให้สามารถเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นลูกค้าได้ แล้วสามรถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้ด้วย ดังนั้นข้อมูล (Data) จึงเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจและแบรนด์ล้วนต้องการไว้ในมือ ซึ่งแน่นอนว่าระบบจัดเก็บและบริหารข้อมูลต่าง ๆ นั้นได้กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำการตลาดยุค 5.0 อย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ต่อการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่าง Big data ที่กำลังเข้ามามีบทบาทกับธุรกิจมากมายและจะยิ่งมีความสำคัญมาขึ้นไปอีกในอนาคต
Marketing 6.0
คือการทำการตลาดแบบ “ยึดมั่นในคำสัญญาที่จะต้องมอบเทคโนโลยีที่มีความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้า” ซึ่งเป็นการตลาดรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้อย่างจริงจัง และตรงกับมาตรการของเฟซบุ๊กที่ไม่อนุญาตให้เพจโพสต์รายละเอียดแชทรายละเอียดที่อยู่ของลูกค้าหากเจอมีแบนเพจทิ้งทันที การตลาดแบบ 6.0 นั้นจะให้ความสำคัญมากกว่าให้บริการแบบทั่วไป การตลาดแบบนี้ต้องเร็วเพิ่มขึ้น 2 เท่า ทันใจ ฉับไว ทันที และปลอดภัย ได้ใจ อยากได้ตอนไหนต้องได้ หากทำได้ก็ทำยอดขายได้ นั่นหมายความว่านักการตลาดจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการสื่อสารแบบราบรื่นเข้าถึงชีวิต พร้อมกับตอบสนองลูกค้าได้ทันทีแบบเรียลไทม์
ซึ่งแต่ละยุคทางการตลาดที่กล่าวมานั้น คือวิวัฒนาการของการตลาดและการดำเนินไปของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์เพื่อความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ โดยนักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจ ต้องใช้ความคิดทักษะความรู้ด้านการตลาด ความคิดสร้างสรรค์ หรือคิดนอกกรอบ เพื่อนำมาวิเคราะห์ ค้นหาปัญหา ความต้องการ เห็นโอกาสจากสิ่งที่คนอื่นยังมองไม่เห็น และเข้าใจในความเป็นมนุษย์ของผู้บริโภคให้เจอ เมื่อได้คำตอบแล้วก็นำมาวางแผนกลยุทธ์การตลาด โดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วย พร้อมด้วยกระบวนการจัดการทางธุรกิจที่ดีในการนำเสนอ สินค้าและบริการกับลูกค้า เพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตก้าวหน้าไปได้ในแต่ละยุคของการเปลี่ยนแปลงทางการตลาด
บทความหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์
อ.ต้นรัก ธวัชชัย สุขสีดา