สร้างภาพความน่าเชื่อ คือการทำการตลาดตัวเอง Personal Marketing
ทุกวันนี้เราอยู่ยุคของโซเชี่ยลมีเดียแพลตฟอร์ม เช่น เฟซบุ๊ก (Facebook) อินสตาแกรม (Instagram) ยูทูป (Youtube) ลิ้งก์อิน (Linkedin) และ ทวิตเตอร์ (Twitter) ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้คนมีตัวตนบนโลกออนไลน์ สามารถสร้างภาพ สร้างไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบของตัวเราได้ หรือแม้แต่ปรากฎการณ์ของคนที่มีชื่อเสียงเพียงชั่วข้ามคืน โซเชี่ยลมีเดียก็สามารถสร้างคนดังได้มากมายในสังคมและยังสร้างพื้นที่ให้คนมีโอกาสทำมาหากินอีกด้วย ถือว่าเป็นอิทธิพลของโซเชี่ยลมีเดียโดยแท้จริง
การทำการตลาดผ่านโซเชี่ยลมีเดีย คือการสร้างภาพ แบรนด์ สินค้าและบริการให้ได้รับความเชื่อถือจากตัวคน จนทำให้ผู้บริโภคเชื่อในคนคนนั้นและยอมควักเงินในกระเป๋าจ่ายซื้อสินค้าตามภาพและความเชื่อที่สัมผัสนั้น การสร้างภาพ “ความน่าเชื่อถือ” คือแก่นแท้ของการเป็นนักขายหรือนักธุรกิจในยุคดิจิทัลที่จะขาดเรื่องนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด การตลาดแบบสร้างความน่าเชื่อถือนี้ เรียกว่า การทำการตลาดตัวเอง Personal Marketing จะเห็นได้ชัดจากวิธีการใช้เฟซบุ๊กในการสร้างภาพลักษณ์เพื่อทำการตลาดตัวเอง จากการ “แชะ แชร์ โชว์” ทั้งการแต่งกายให้ดูดี วางตัวให้ดูดี มีบุคลิกที่ดี การใช้กระเป๋าแบรนด์เนม ใส่นาฬิกายี่ห้อหรู ขับรถเบนซ์ บีเอ็ม การใช้มือถือรุ่นใหม่ ฯลฯ ถือว่าเป็น “การสร้างภาพ” เพื่อให้สถานะทางสังคมนั้นดูดี น่าเชื่อถือมากขึ้น
ซึ่งถือว่าเป็นการทำ “การตลาด” ในตัวบุคคลเอง สิ่งที่ดีและน่าเชื่อถือที่ไม่ควรโพสต์คือ เรื่องการเมืองแบบสุดโต่ง ไม่ควรกดไลค์เพจที่มีแต่เรื่องเซ็กส์หรือการพนัน ไม่ควรโพสต์อวดมากเกินไป ไม่ควรโพสต์พร่ำเพร้อพรรณนาเรื่องบางเรื่องจนเกินพอดี ไม่ควรเมนต์ด้วยทัศนคติที่เป็นลบ ที่สำคัญควรโพสต์เกี่ยวกับบทความการพัฒนาตัวเอง เช่น การขาย ธุรกิจ เศรษฐกิจ จะทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูเป็นคนที่สนใจด้านธุรกิจที่เป็นแบบอย่างได้ดี จะทำให้คุณสามารถสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อทางการตลาดตัวตนได้ดีและผู้บริโภคยอมจ่ายเงินคุณแน่นอน
อปท.นิวส์ : หนังสือพิมพ์รายปักษ์ เพื่อการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อพัฒนาประเทศ สู่ความเข้มแข็งและมั่นคง
อ.ธวัชชัย สุขสีดา อ.ต้นรัก อาจารย์ประจำหลักสูตรการสื่อสารการตลาดดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์