สูตรลับตั้ง“แคปชั่น” โพสต์ดึงความสนใจลูกค้า หลังโควิดกำลังจะไป….
สวัสดีครับในระยะเวลาเกือบ 3 ปี การทำงานที่ถูกปรับเปลี่ยนโดยมีไวรัสตัวร้ายโควิด 19 เข้ามาพลิกโฉมให้คนจำนวนไม่น้อยเข้าสู่โหมดทำงานที่บ้าน ทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น กลุ่มเจ้าของธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขาย อาหาร สิ่งของ เครื่องใช้ ต่างๆ นำเทคโนโลยีสื่อออนไลน์ ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่าง เฟซบุ๊ก (Facebook) และ อินสตาแกรม (Instagram) มาใช้เรียกยอดขาย โกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งหัวใจที่สำคัญมาจากการสื่อสาร“แคปชั่น” หรือ “ข้อความโพสต์” ในการดึงคน
การตั้งแคปชั่น หรือ “ข้อความโพสต์” กลายเป็นเป้าหมายแรกที่ “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” ควรให้ความสำคัญ เพราะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายร้านเจอปัญหาเดียวกัน คือ สินค้าดี แต่โพสต์ขายทีไร กลับไม่มีเพื่อน หรือคนรู้จักสนใจสอบถามเลย “แคปชั่นต้องห้าม” ที่ดูขายของเกินไป ไม่ควรโพสต์ เพราะอาจทำให้ลูกค้าเลื่อนผ่านได้ เช่น เร่เข้ามาๆ อยากได้อะไรบอกแม่ค้าได้เลย แม่ค้าใจดีนะ อิอิ, เปิดร้านแล้วจ้าาาา ขอรับออเดอร์ปังๆ, เห็นเงียบๆ ออเดอร์เพียบนะจ้ะ, หน้ากากอนามัยมาใหม่ สอบถามได้ค่ะ/ครับ, วันนี้ของเข้าใหม่ มีแบบน่าสนใจเยอะเลย มาดูก่อนได้น้าา… สนใจตัวไหนทักแม่ค้าได้เลย เป็นต้น “แคปชั่น” โพสต์ขายของข้างต้น นอกจากไม่ลงลึกในรายละเอียดของสินค้าแล้ว ยังไม่สร้างพลังในการสื่อสาร และดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็นได้ ผู้ติดตามเมื่อเลื่อนฟีดเจอแบบนี้บ่อยๆ เข้า ก็อาจถอยหนี ทำให้ปิดโอกาสการขายกับลูกค้ารายนั้นไปอย่างถาวร
โดย “แคปชั่น” หรือ “ข้อความโพสต์” คือ คำบรรยาย เพื่อสื่อสารถึงสิ่งของนั้นๆ ในอีกแง่ของการขายสินค้าบนออนไลน์ แคปชั่นคงไม่ต่างจาก การแนะนำสินค้า โฆษณาสิ่งของ ควบคู่กับ ภาพสินค้าสวยๆ เพื่อเรียกความสนใจของลูกค้าให้เขาหยุดอ่านและดู เพิ่มโอกาสการขายที่จะช่วยตีหัวลูกค้าเข้าบ้านนั่นเอง ซึ่งสูตรลับตั้ง“แคปชั่น” โพสต์ดึงความสนใจลูกค้าให้ดำเนินการดังนี้
1. ใส่ตัวเลขเข้าไป การใส่ตัวเลขเข้าไปในแคปชั่น หรือ ข้อความใดๆ ทำให้รูปประโยคมีความน่าสนใจ และดึงดูดผู้อ่านมากขึ้นกว่าข้อความลอยๆ บอกเล่าสรรพคุณ ความดีงามของสินค้า แบบยาวพรืดเป็นย่อหน้า นั่นทำให้ดูไม่น่าสนใจ ไม่สามารถดึงสายตาลูกค้าให้เห็นได้ว่า สิ่งที่ต้องการนำเสนอหลักๆ แล้วคืออะไร แต่หากเราเน้นโดยการใช้ตัวเลขวางแทรก ช่วยดึงความสนใจ เสริมด้วยประโยคที่จะสื่อสารแบบกระชับ ก็จะทำให้ผู้อ่านอยากหาคำตอบต่อ ว่า 1,2,3 นั้นคืออะไร โดยผู้ค้าบนออนไลน์ สามารถนำไปประยุกต์ และสอดแทรกผลิตภัณฑ์ของตัวเองเข้าไปได้แบบเนียนๆ ไม่ขัดตา ยกตัวอย่างเช่น 3 เหตุผล ที่คุณต้องซื้อหน้ากากอนามัย ผ้าไมโครไฟเบอร์, 2 วิธีง่ายๆ ในการลดน้ำหนัก (โดยสอดแทรกผลิตภัณฑ์ของตนเองเข้าไปในเนื้อหา), ประโยชน์ 3 อย่างในการรับประทานน้ำผัก ผลไม้ (ตามด้วยชื่อแบรนด์)
2. เร้าด้วยปัญหา ปัญหาที่เกิดขึ้นกับบุคคล โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ บุคลิก การทำงาน และการใช้ชีวิต เป็นประเด็นที่คนทุกเพศ ทุกวัย สนใจ และเมื่อเกิดปัญหานั้นๆ ก็อยากจะหาทางแก้ ทางลัดไวๆ การตั้งแคปชั่นขายของ ด้วยการดึงปัญหาจั่วหัวโปรย คล้ายเป็นการหว่านแห หาปลา ถ้าบังเอิญ ปัญหาดังกล่าว ตรงล็อกกับสิ่งที่ผู้ติดตาม คนอ่านที่กำลังเผชิญปัญหาเดียวกัน ก็มีโอกาสที่จะขายของได้ เพราะดีหรือไม่ดี งานนี้ก็คงอยากลองสั่งมาใช้ดูสักตั้ง ยกตัวอย่างเช่น หน้าสิว ผิวคล้ำ แก้ได้ด้วย (ผลิตภัณฑ์ของตนเอง), มีกลิ่นปาก ไม่กล้าสนทนาแบบใกล้ชิด (ผลิตภัณฑ์ของตนเอง) ช่วยคุณได้,ใส่ชุดแล้วไม่มั่นใจ หน้าท้องหนา ต้องลอง กางเกงชั้นในแบบกระชับ แก้สัดส่วน (ผลิตภัณฑ์ของตนเอง)
3. เปิดข้อความด้วยคำคล้องจองรูปประโยคและแคปชั่นแบบคำคล้องจอง เล่นสัมผัส ทั้งใช้คำซ้ำ พ้องเสียง เป็นที่นิยมในวงการโฆษณาขายสินค้ามาช้านาน ผ่านการตั้งรูปประโยคใหม่ให้เข้ากับสินค้านั้นๆ เพราะช่วยให้อ่านแล้วเกิดความไพเราะ ติดหู และจดจำง่าย เพิ่มความน่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น หน้าขาว สว่างใส ด้วย บีบีครีม (ชื่อผลิตภัณฑ์) ไม่ปวดหลัง ไม่เมื่อยล้า และไม่แพง ต้อง ‘แผ่นแปะตราเสือ’ เท่านั้น ถุงเท้าคาร์สัน ฟอร์มดีไม่มีย้วย (สโลแกนของแบรนด์ดังที่ติดหูคนไทยอย่างยาวนาน)
สรุปได้ว่าการตั้ง “แคปชั่น” หรือ “ข้อความโพสต์” ที่โดดเด่นในการขาย ไม่ต่างอะไร กับการโฆษณาเชิญชวน โดยไม่ต้องไปจ้างบริษัทโฆษณาดังมาออกแบบให้เสียเงิน แต่ “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” สามารถดึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นั้นๆ แตกย่อย ออกมาเป็นคำแนะนำสินค้าสั้นๆ ผ่านแคปชั่นง่ายๆ แทนการนำเสนอสินค้าแบบขายตรงเกินไปซึ่งนั่นอาจเป็นการไล่ลูกค้าทางอ้อมได้ พ่อค้าแม่ค้าลองหันมาปรับโดยการนำตัวเลขเข้าไปแทรก, การจั่วหัวด้วยปัญหา และ ใช้คำสัมผัสที่คล้องจอง ก็จะทำให้ผู้ได้อ่าน ติดตา ติดปาก และเข้าไปติดในใจของผู้ซื้อได้ง่าย ยิ่งในการแข่งขันที่สูงในโลกออนไลน์แล้ว การหาอัตลักษณ์ ระบุตัวตนของสินค้า แม้จะชนิดเดียวกัน แต่ทำให้แตกต่างได้ ควบคู่กับการตั้งราคาขายที่เหมาะสม โอกาสการขายก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย สุดท้ายต้องขอขอบคุณครูน้ำฝนผู้เชี่ยวชาญด้านบุคลิกภาพและการสื่อสารผู้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จาก postfamily.thailandpost ด้วยครับ
อ.ดร.ตันรัก ธวัชชัย สุขสีดา อาจารย์ วิทยากรด้านออนไลน์และที่ปรึกษาด้านดิจิทัล ผู้เชี่ยวชาญการตลาดออนไลน์ ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ บทความหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์ : หนังสือพิมพ์รายปักษ์ เพื่อการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพัฒนาประเทศ สู่ความเข้มแข็งและมั่นคง. ประจำเดือน 16-30 มิถุนายน 2565 เรื่อง สูตรลับตั้ง“แคปชั่น” โพสต์ดึงความสนใจลูกค้า หลังโควิดกำลังจะไป..