สืบสานสร้างมรดกสมุนไพรไทยสู่พลัง Soft Power ไทยแลนด์

Share:
สืบสานสร้างมรดกสมุนไพรไทยสู่พลัง Soft Power ไทยแลนด์

สวัสดีครับ…บทความนี้เป็นการสร้างพลังสมุนไพรไทยสู่ Soft Power ไทยแลนด์ คำว่า“Soft Power” นั้นหมายถึง การใช้อิทธิพลทางวัฒนธรรม การกิน การดื่ม วิถีชีวิต หรือความเชื่อ นำเสนอผ่านสื่อ หรือผลงานในรูปแบบต่างๆ เพื่อโน้มน้าวใจ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด หรือพฤติกรรมความชอบให้หันมาสนใจสิ่งเหล่านั้น ๆ กันมากขึ้น
เราจะเห็นได้จากหลายประเทศในโลกนี้ที่ใช้อิทธิพล Soft Power เปลี่ยนแปลงทางความคิดและพฤติกรรมของผู้คนให้หันมาสนใจประเทศของเขา อย่างเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้ภาพยนตร์เป็น Soft power ตัวอย่างพวกหนัง Hollywood กัปตันอเมริกาเป็นฮีโร่กู้โลก หรือจะเป็นประเทศอังกฤษก็ใช้กี่ฬาเป็น Soft power อย่างฟุตบอลพรีเมียร์ลีก หรืออย่างในเอเชียเราอย่างประเทศญี่ปุ่นตอนนี้ที่มาแรงใช้อาหารซูชิเป็น Soft power  หรือแม้อย่างเกาหลีก่อนหน้านี้ใช้อุตสาหกรรมบันเทิงดนตรี Kpop ตอนนี้หันมาสร้างกระแส Soft power เป็นหนังภาพยนตร์ซีรีส์ ซึ่งประเทศที่กล่าวมานั้นเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกในเรื่อง Soft Power

ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับ 41 ของโลก ในปีนี้อ้างอิงจากผลการสำรวจ Global Soft Power Summit 2023 โดยที่ประเทศไทยมีความโดดเด่นเรื่องอาหารการกิน ศิลปวัฒนธรรม มรดกทางประวัติศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ ผู้คนยิ้มแย้มอัธยาศัยดี มีศิลปะการต่อสู้เลื่องชื่ออย่างมวยไทย

ถึงแม้ตำแหน่งของไทยในจากผลการสำรวจซอฟต์เพาเวอร์โลกจะไม่สูงมาก แต่ก็ไม่ถึงขนาดต่ำ และจัดว่ามีอนาคตที่ดี เพราะยังมีทุนทางวัฒนธรรมมากมายและยังมีศักยภาพแฝงอยู่เยอะ เพียงแต่ยังต้องร่วมมือกันของทุกภาคส่วนที่ต้องเดินหนัาพัฒนาอย่างเต็มที่ ซึ่งด้วยนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลและการสนับสนุนวัฒนธรรมโดยกระทรวงวัฒนธรรมได้สนับสนุน Soft Power ของไทย ตามแนวทางการส่งเสริมวัฒนธรรม 5 รูปแบบ “5F” ดังนี้ 1. อาหาร (Food) 2. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) 3. การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion) 4. ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting) และ 5. เทศกาล (Festival) ซึ่งนโยบายส่งเสริมนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพลังซอฟต์เพาเวอร์ที่ยังอ่อนอยูเท่านั้นและไม่ใช่ศักยภาพทั้งหมดทั้งมวลของชาติในการแผ่ขยายอิทธิพลไปสู่พื้นที่ต่างๆ ของโลกผ่านกิจกรรมระหว่างประเทศ

สำหรับผมสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจดันสู่ Soft power ของไทยในวันนี้ คือสมุนไพรไทย (ในวงการแพทย์แผนไทยใช้ อาจใช้เข้าคำรับยาหรือใช้รักษาโดยตรงด้วยสรรพคุณเฉพาะของสมุนไพรเอง) สมุนไพรของไทยมีมากมาย มีพลังสร้างสรรค์หรือ Soft power ของประเทศในรูปแบบวัฒนธรรมอาหารได้ เช่น ขิง ข่า ตะไข ขมิ้น ที่นำมาใช้ประกอบในการปรุงอาหาร ซึ่งมีสมุนไพรไทยมากมายที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้ โดย 1.สามารถมองสมุนไพรสามารถนาต่อยอดได้ เช่น ขมิ้นชันและกระชายดำและ 2.สมุนไพรที่มีศักยภาพและต้องการความต่อเนื่องเช่น กระชาย มะขามป้อม ไพล ขิง และกระท่อม โดยสามารถยกระดับและพัฒนาความรู้ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ รวมทั้งอนุรักษ์ฟื้นฟูและพัฒนาต่อยอด ศิลปะ วัฒนธรรม และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อนํามาต่อยอดในการสร้างมูลค่าเพิ่ม  ซึ่ง สมุนไพรไทย มีการใช้สืบทอดมาอย่างช้านาน ถือเป็นอัตลักษณ์ของไทย เป็นที่รู้จักของนานาประเทศ ซึ่งประเทศไทยเป็นแผ่นดินทองอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ทรัพยากรทางธรรมชาติ ดินดี น้ำดี อาการดี และเป็นประเทศเมืองสมุนไพรที่สร้างความเข้มแข็งและสร้างมูลค่าเพิ่มจากสมุนไพรให้แก่ชุมชนก้าวไปสู่สากลโลกได้

วันนี้ผมอยากให้เห็นว่ามีสมุนไพรไทยที่เป็นเอกลักษณ์และมีความมหัศจรรย์น่าสนใจที่คนไทยใช้สืบทอดกันมาหลายอายุคนในการรักษาของคนโบราณ ในเรื่องสุขภาพ ความสวยความงาม สิว ฝ้า โรคผิวหนังและพิษแมลงสัตว์กัดต่อยอย่างตัวของสมุนไพรไทยนางแซงหรือโลดทะนงแดง สมุนไพรฟ้าทะลายโจร สมุนไพรว่านนางคำ ที่ถ่ายทอด ศึกษา เรียนรู้ และวิจัย พัฒนาต่อยอดนำมาสร้างเป็น “นวัตกรรมสมุนไพรไทยอัดก้อน” เพื่อให้ใช้ง่าย จนต่างชาติเข้ามาศึกษาและนำไปใช้กันเป็นจำนวนมาก โดยลุงแดง มงคลรัตน์ ตะวันเดือน ผู้สืบทอดความรู้สมุนไพรพื้นบ้านนางแซงหรือโลดทะนงแดงมามากว่า 40 ปี 

สมุนไพรอัดก้อนคืออะไร สมุนไพรอัดก้อนคือ การนำสมุนไพรดิบ ๆ จากธรรมชาติมาอัดเป็นก้อนโดยไม่ผ่านความร้อนโดยมีส่วนผสมจากธรรมชาติคือ ตัวของสมุนไพรนางแซงหรือโลดทะนงแดงนำมาผสมกับไขมันอิ่มตัว 80% สกัดจากเมล็ดในปาล์มน้ำมันและน้ำมันมะพร้าวแล้วอัดออกมาเป็นก้อนเหมือนใช้สมุนไพรแบบสด ๆ ในรูปของสบู่สมุนไพรอัดก้อนสูตรตำรับนางแซง มีอย. มีวิจัยรองรับ ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าและผิวกาย เช่น  สิวอักเสบ ฝ้าแดด กระเนื้อ จุดด่างดำ ติ่งเนื้อหรือถุงไขมัน ที่คนต่างชาติและคนทั่วโลกเป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก

ถ้าทุกภาคส่วนมีการสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาสืบสานสร้างมรดกสมุนไพรไทยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของไทยที่มีความมหัศจรรย์สรรคุณของตัวสมุนไพรอย่าง นางแซงหรือโลดทะนงแดงนี้ ผมเชื่อจะสามารถเป็นพลัง Soft Power ไทยแลนด์ที่สามารถนำไปช่วยเหลือคนไทยและคนทั่วโลกที่มีปัญหาสุขภาพได้เลยครับ

บทความหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์ : หนังสือพิมพ์รายปักษ์ เพื่อการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพัฒนาประเทศ สู่ความเข้มแข็งและมั่นคง. โดย อ.ดร.ต้นรัก ธวัชชัย สุขสีดา อาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญการตลาดออนไลน์ดิจิทัล คอลัมนิสต์บทความหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์

อ.ดร.ต้นรัก ธวัชชัย สุขสีดา อาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญการตลาดออนไลน์ดิจิทัล คอลัมนิสต์บทความหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์
Share:

Leave a reply