สร้างมรดกสมุนไพรไทยพื้นบ้านโลดทะนงแดงนางแซง soft power บุกตลาดโลก

สร้างมรดกสมุนไพรไทยพื้นบ้านโลดทะนงแดงนางแซง soft power บุกตลาดโลก
สวัสดีครับ หากพูดถึง “soft power” เป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งเป็นทวีปที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมสูงโดยเฉพาะประเทศไทยเรา “อาหาร” เป็นหนึ่งในสินค้าที่นิยมนำมาใช้เป็น soft power สร้างชื่อให้กับประเทศ เช่น ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ผัดไทย ผัดกะเพรา แกงเผ็ดเป็ดย่าง ต้มข่าไก่ ยำเนื้อ หมูสะเต๊ะ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และแกงพะแนง เมื่อย้อนกลับมามองก็พบว่า อาหารไทยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นจุดสร้างมูลค่าให้กับประเทศ แต่มีสิ่งหนึ่งที่มีคุณค่ามหัศจรรย์ไม่แพ้อาหารไทย และเป็นมรดกที่สืบทอดกันมากอย่างช้านานนั้นคือ “สมุนไพรไทยพื้นบ้าน” เช่น ขิง ฟ้าทลายโจร ขมิ้นชัน ไพล ใบบัวบก กระชายดำ กระเทียม พริกไทย และสมุนไพรอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนทั่วโลกกำลังมองหาเพื่อนำไปใช้ในชีวิตทั้ง กิน ดื่ม และใช้ดูแลรักษาสุขภาพของตนเองด้วยธรรมชาติ
โดยที่สมุนไพรไทยเป็นหนึ่งในวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีคุ่ณค่า และมีสรรพคุณที่ดี เช่น ว่านหางจระเข้ ขมิ้น ได้รับความนิยมในแวดวงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ความสวย ความงาม นำไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สปา สมุนไพรแปรรูป เครื่องดื่ม ยาและอาหารเสริม ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
ทำให้วันนี้ผมอยากให้เห็นโอกาสคุณค่ามรดกสมุนไพรไทยที่สามารถสร้างเศรฐกิจให้ประเทศได้ ในฐานะที่ผมเป็นอาจารย์สอนและที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ให้กับ ลุงแดง คุณมงคลรัตน์ ตะวันเดือน ซึ่งท่านเป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาสมุนไพรไทยพื้นบ้านที่อยู่่ในแวดวงสมุนไพรไทยมานานกว่า 30 ปี รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการนำสมุนไพรมาใช้ในกระบวนการรักษา และศึกษาความรู้ด้านวิชาการทางการแพทย์แผนไทย ได้เรียนรู้เรื่องสมุนไพรนอกเหนือจากที่ร่ำเรียนมา ทำให้ลุงแดงได้รู้ข้อกำหนดทางกฎหมายมี่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสินค้าสมุนไพรแปรรูป ธุรกิจเครื่องสำอางสมุนไพร จากการที่ได้ศึกษาสมุนไพรแต่ละชนิดทำให้เกิดความประหลาดใจว่า ทำไมสมุนไพรสามารถรักษาโรคบางชนิดให้หายได้ จึงได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมอย่างลึกซึ้ง เพราะก่อนที่จะนำสมุนไพรมาใช้นั้น จำเป็นจะต้องศึกษาจากตำราต่างๆ รวมถึงข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้จากหลายแหล่ง นอกจากสะสมความรู้ให้ได้มาก ประสบการณ์ก็เป็นเรื่องสำคัญในการที่จะนำสมุนไพรแต่ละชนิดที่มีคุณสมบัติเฉพาะไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ อย่างสมุนไพรพื้นบ้าน “โลดทะนงแดง” หรือ “นางแซง” ที่หมอพื้นบ้านนำใช้มาอย่างยาวนานในการรักษาผู้ที่ถูกงูพิษกัด แมลงที่มีพิษกัดต่อย รักษาแผลที่เน่าเปื่อยจากพิษงูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งและลดพิษงูชนิดที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นตำรับยาแพทย์แผนไทย นอกจากนี้นางแซงยังมีคุณสมบัติในการดูแลผิวพรรณ รักษาสิว ฝ้าแดด และฝีหนองอีกด้วย
จากความรู้และประสบการณ์ของลุงแดงด้านการใช้สมุนไพรที่รักษาคนสั่งสมมายาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ลุงแดงอยากที่จะพัฒนาต่อยอดนำสมุนไพรไทยไปใช้ในรูปแบบที่ทันสมัยมากขึ้น สร้างเป็นนวัตกรรมใหม่ จนเป็นสมุนไพรไทยอัดก้อนภายใต้ “แบรนด์ตะวันเดือน” ที่ดึงเอาคุณสมบัติเด่นของสมุนไพร 3 ชนิดมาเป็นส่วนผสมสำคัญ คือ นางแซง ฟ้าทะลายโจร และว่านนางคำ ลักษณะของสมุนไพรไทยอัดก้อนจะเหมือนสบู่แต่มีวิธีการใช้และคุณค่ามากกว่าสบู่โดยไม่มีสารเคมีเป็นส่วนผสมในการผลิต นอกจากน้ำมันมะพร้าว และไขมันสกัดจากเมล็ดในปาล์ม สมุนไพรไทยอัดก้อนตะวันเดือนแต่ละสูตรมีคุณสมบัติเด่นที่ต่างกัน สมุนไพรไทยอัดก้อนนางแซง ลดปัญหาสิว ฝ้าแดด กระ ติ่งเนื้อ สมุนไพรไทยอัดก้อนว่านนางคำ ลดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว บำรุงผิวพรรณ และสมุนไพรไทยอัดก้อนฟ้าทะลายโจร ลดปัญหาเชื้อรา กลาก เกลื่อน ผดผื่นคัน ช่วยลดกลิ่นตัวที่เกิดจากแบคทีเรีย สมุนไพรไทยอัดก้อนตะวันเดือนทุกสุตร มี อย. มีงานวิจัยรองรับมีการจดแจ้งขึ้นทะเบียนชัดเจน
ลุงแดงกล่าวว่า การนำสมุนไพรไทย นางแซง ฟ้าทะลายโจร และว่านนางคำ แต่ละชนิดมาแปรรูปต้องรู้ว่าสมุนไพรนั้นมีสรรพคุณอะไร เช่น สมุนไพรโลดทะนงแดงหรือนางแซงคนโบราณใช้ในการรักษาสิว ฝ้า ในรูปแบบผงนำไปผสมกับแป้งท้าวยายม่อมและน้ำมะนาว และต้องเข้าใจก่อนว่าสมุนไพรแต่ละชนิดมีระยะเวลาในการปลูกและเก็บเกี่ยวต่างกัน การหาซื้อตามตลาดอาจไม่ได้คุณภาพตามที่ต้องการ จำเป็นจะต้องควบคุมตั้งแต่กระบวนการปลูกไปจนถึงเก็บเกี่ยว สำหรับสมุนไพรนั้นแต่ละขั้นตอนค่อนข้างมีความละเอียดอ่อน เช่น ฟ้าทะลายโจร การเก็บเกี่ยวที่ไม่คำนึงถึงอายุ ขั้นตอนการทำความสะอาด เป็นสิ่งที่ต้องระวังเพื่อนำสมุนไพรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การควบคุมคุณภาพวัตถุดิบส่งผลให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
วันนี้สมุนไพรไทยอัดก้อนตะวันเดือนเป็นที่รู้จักทั้งคนไทยและต่างชาติ ที่ลุงแดงได้แนะนำให้คำปรึกษาได้ช่วยเหลือคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณบนใบหน้า สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย และปัญหาบริเวณร่างกาย ติ่งเนื้อ เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ผดผื่นคัน หูด สเก็ดเงิน มามากมายสามารถค้นหาได้ในกูเกิล แม้แต่ต่างประเทศอย่างจีน อินเดีย เยอรมัน มีผู้คนติดต่อขอนำสมุนไพรไทยอัดก้อนตะวันเดือนไปจำหน่ายในระเทศนั้น ๆ ด้วยสรรพคุณและความมหัศจรรย์ของตัวสมุนไพรเอง
กล่าวได้ว่าสมุนไพรไทยพื้นบ้านอย่าง นางแซง ฟ้าทะลายโจร และว่านนางคำ เป็น soft power มรดกสมุนไพรของไทยที่อนาคตจะนำไปช่วยเหลือรักษาคนได้ทั่วโลกได้ ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องร่วมมือกันในการผลักดันสมุนไพรไทยพื้นบ้านให้เป็น soft power อย่างต่อเนื่อง โดยภาครัฐควรมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยให้เชื่อมโยงคุณค่าการใช้รักษาควบคู่กับทางการแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือก สถานพยาบาลและโรงพยาบาลผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะโลกดิจิทัลและสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้ป่วยต่างชาติที่ใช้ค้นคว้าหาข้อมูล และวางแผนเดินทางมาเป็นนักท่องเที่ยวและมารักษาพยาบาลในประเทศไทย การพัฒนาประเทศไทยไปสู่ประเทศสมุนไพรโลกที่สอดรับกับเทรนด์รักสุขภาพแห่งอนาคต (Future Health) ซึ่งเป็นสินค้ามรดกสมุนไพรไทยที่ทุกภาคส่วน ทุกคน ต้องสนับสนุนให้ความรู้และบอกต่อซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทยเติบโตในอนาคต
บทความหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์ : หนังสือพิมพ์รายปักษ์ เพื่อการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพัฒนาประเทศ สู่ความเข้มแข็งและมั่นคง. โดย อ.ดร.ต้นรัก ธวัชชัย สุขสีดา อาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญการตลาดออนไลน์ดิจิทัล คอลัมนิสต์บทความหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์
