แนวโน้มทิศทางของการสร้างเนื้อหาดิจิทัลในอนาคต

Share:
แนวโน้มทิศทางของการสร้างเนื้อหาดิจิทัลในอนาคต

แนวโน้มทิศทางของการสร้างเนื้อหาดิจิทัลในอนาคต

สวัสดีครับการสร้างเนื้อหาดิจิทัลทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การสร้างเนื้อหาในโลกออนไลน์ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้สร้างแบรนด์และนักการตลาด เนื่องจากเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้ข้อมูลเชิงลึกสามารถช่วยคาดการณ์แนวโน้มทิศทางของการสร้างเนื้อหาดิจิทัลในอนาคตที่ดีได้ จะเห็นได้จากการเติบโตของเนื้อหาแบบวิดีโอสั้นที่กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากผู้คนบนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Instagram Reels ซึ่งถือเป็นกระแสไปแล้ว ตามรายงานของ HubSpot ที่สำรวจข้อมูลไว้ว่ามีนักการตลาด 85% เชื่อว่าวิดีโอสั้นเป็นรูปแบบเนื้อหาโซเชียลมีเดียที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปี 2024 เพราะมีลักษณะที่เข้าถึงง่าย ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดึงดูดความสนใจของผู้ชมดิจิทัลที่มีช่วงความสนใจสั้นลงเรื่อย ๆ

รวมไปถึงเนื้อหาในดิจิทัลที่เป็นแบบโต้ตอบด้วยความก้าวหน้าของความจริงเสริม (AR) และความจริงเสมือน (VR) ทำให้ผู้ชมได้ประสบการณ์แบบดื่มด่ำเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยการศึกษาวิจัยของ PwC คาดการณ์ว่าตลาด AR และ VR จะเติบโตถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ซึ่งแบรนด์ต่างๆ กำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการลองสวมชุดเสมือนจริงในแฟชั่น ไปจนถึงการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมหรืออีเว้นท์นั้นในบรรยายกาศความบันเทิงที่สมจริงต ตัวอย่างเช่น การดูคอนเสิร์ต BLACKPINK ใน Metaverse คอนเสิร์ตเสมือนจริง โดยอยู่หน้าจอ ไม่ต้องเดินทาง สนุกกับเพื่อนได้ ใกล้ชิดศิลปิน ซึ่งใช้เทคโนโลยีช่วยสร้างความรู้สึกเสมือนจริงในลักษณะของ avatar หรือ กราฟิกภาพของสาวลิซ่า สมาชิกชาวไทยในวง ที่กำลังควบบิ๊กไบค์ท่ามกลางบรรยากาศราวกับอยู่ในโลกอนาคต

อนาคตจากนี้ไปการสร้างเนื้อหาดิจิทัลจะขับเคลื่อนด้วย AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ โดยขณะนี้ AI กำลังเข้ามาปฏิวัติการสร้างเนื้อหาในโลกออนไลน์ โดยจะเห็นได้ชัดจากเครื่องมือ AI เช่น GPT-4 ที่ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างข้อความ สร้างภาพ และแม้แต่สร้างเพลง ซึ่งตามข้อมูลของ Gartner รายงานไว้ว่าเนื้อหาดิจิทัลที่สร้างโดย AI จะคิดเป็น 30% ของเนื้อหาดิจิทัลทั้งหมดภายในปี 2025 ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้กระบวนการสร้างเนื้อหามีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้อีกด้วย

และไม่ควรปล่อยผ่านคอนเทนต์เนื้อหาดิจิทัลที่เกี่ยวกับการจัดรายการวิทยุออนไลน์ อย่างพอดแคสต์ Podcast ซึ่งยังคงต้องดำเนินการกันต่อไป เพราะยังมีผู้คนที่ยังฟังกันอยู่ ซึ่งพอดแคสต์ไม่ได้เป็นเพียงรายการเฉพาะกลุ่มอีกต่อไปแต่เป็นรายการกระแสหลัก โดยจากการวิจัยของ Edison คาดว่าจำนวนผู้ฟังพอดแคสต์ในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวจะสูงถึง 164 ล้านคนภายในปี 2024 ซึ่งแบรนด์ต่างๆ ลงทุนกับพอดแคสต์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเข้าถึงผู้ฟังที่มีส่วนร่วม โดยการเพิ่มขึ้นของลำโพงอัจฉริยะและความสะดวกของเนื้อหาเสียง ทำให้พอดแคสต์จะเติบโตต่อไปในฐานะรูปแบบเนื้อหาหลักของคอนเทนต์ดิจิทัลในอนาคต

วันนี้ผู้สร้างและผู้เสพสื่อดิจิทัลจำเป็นต้องใส่ใจต่อเนื้อหาด้านจริยธรรมแบบความยั่งยืน โดยผู้บริโภคจะต้องตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและจริยธรรมของเนื้อหาที่บริโภคมากขึ้น จากการสำรวจของ Nielsen พบว่าผู้บริโภคทั่วโลก 73% ระบุว่าพวกเขาจะเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอย่างแน่นอนหรืออาจจะเปลี่ยนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผู้สร้างเนื้อหาตอบสนองด้วยการเน้นที่หัวข้อความยั่งยืนและส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางจริยธรรม ความโปร่งใสและความถูกต้องของเนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากผู้ชมเรียกร้องความรับผิดชอบจากแบรนด์มากขึ้น
โดยเนื้อหาที่ถูกสร้างโดยผู้ใช้ (UGC) กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากแบรนด์ต่าง ๆ ตระหนักถึงพลังของเสียงที่แท้จริงของลูกค้า รายงานของ Adweek เผยว่าผู้บริโภค 85% มองว่าเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นมีอิทธิพลมากกว่าเนื้อหาที่แบรนด์สร้างขึ้น การสนับสนุนให้ผู้ชมสร้างและแชร์เนื้อหาไม่เพียงแต่ช่วยสร้างชุมชน แต่ยังช่วยให้เกิดการสื่อสารทางการตลาดที่มีคุณค่าและแท้จริงอีกด้วย 

อนาคตเนื้อหาจากนี้ไปจะมีความเป็นส่วนตัวสูง Hyper-Personalised Content โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลและ AI ที่เข้ามาทำให้การปรับแต่งเนื้อหาเฉพาะบุคคลกลายเป็นเรื่องซับซ้อนมากขึ้น การปรับแต่งเนื้อหาดิจิทัลเฉพาะบุคคลสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมและอัตราการแปลงได้อย่างมาก จากข้อมูลของ Epsilon พบว่าผู้บริโภค 80% มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้นเมื่อแบรนด์ต่างๆ มอบประสบการณ์ที่ปรับแต่งเนื้อหาดิจิทัลเฉพาะบุคคล โดยการปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการและพฤติกรรมของแต่ละบุคคลเพื่อให้เข้าถึงการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการตลาดดิจิทัล

และการสตรีมสดเนื้อหาดิจิทัลจะเป็นการมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์ โดยการสตรีมสดกำลังกลายเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์เนื้อหาดิจิทัล จะเห็นได้จากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Twitch, YouTube Live และ Facebook Live ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ตามการวิจัยของ Grand View การทำการตลาดแบบสตรีมสดทั่วโลกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 184.3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 ซึ่งการสตรีมสดช่วยให้เกิดการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการทำเนื้อหาแบบดิจิทัลที่มีส่วนร่วมและสร้างชุมชน

การก้าวสู่อนาคตของการสร้างเนื้อหาดิจิทัล เมื่อมองไปข้างหน้าจะเห็นได้ว่าแนวโน้มการสร้างเนื้อหาดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงและสร้างสรรค์มากกว่าที่เคย การนำเทรนด์เหล่านี้มาใช้จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้เนื้อหามีความเกี่ยวข้องและดึงดูดผู้ชม โดยอนาคตของการสร้างเนื้อหาดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพเข้าใจผู้บริโภคจะเต็มไปด้วยโอกาส การมีข้อมูลและปรับตัวอยู่เสมอจะช่วยให้ใช้ประโยชน์จากเทรนด์เหล่านี้เพื่อสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ มีส่วนร่วม และมีผลกระทบที่ดีแบรนด์ได้ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อมและก้าวข้ามกระแสแห่งอนาคตไปด้วยกันครับ ขอบคุณภาพประกอบจาก franganillo จาก Pixabay

บทความหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์ : หนังสือพิมพ์รายปักษ์ ประจำต้นเดือน 16-30 ก.ย 67 เพื่อการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพัฒนาประเทศ สู่ความเข้มแข็งและมั่นคง. เรื่อง แนวโน้มทิศทางของการสร้างเนื้อหาดิจิทัลในอนาคต โดย อ.ดร.ต้นรัก ธวัชชัย สุขสีดา อาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญการตลาดออนไลน์ดิจิทัล คอลัมนิสต์บทความหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์

อ.ดร.ต้นรัก-หนังสือพิมพ์-อปท.นิวส์

โหลดอ่าน เรื่อง แนวโน้มทิศทางของการสร้างเนื้อหาดิจิทัลในอนาคต โดย อ.ดร.ต้นรัก ธวัชชัย สุขสีดา ได้ที่ ฉบับที่ 436 ปักษ์หลัง วันที่ 16 – 30 กันยายน 2567 คลิก

Share:

Leave a reply