เทคนิคทำเฟสบุ๊คไลฟ์ Facebook Live ให้ดังหาตังค์ได้ชัวร์

Share:

ในยุควิถีใหม่ New Normal นี้ใครหลายๆคน อยากมีชื่อ อยากเป็นที่รู้จักในโลกดิจิทัล ได้หันตนเองมาเป็นสื่อสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์โด้วยการไลฟ์เฟสบุ๊ค Facebook Live เพื่อสร้างชื่อเสียงและหารายได้ในอนาคต ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าคนธรรมดาก็มีช่องรายการทีวีเป็นของตัวเองได้ผ่านเฟซบุ๊ค วันนี้อาจารย์จึงขอแนะนำเครื่องมือการตลาดออนไลน์อย่างหนึ่งที่ทุกคนสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาและภาพลักษณ์เพื่อขายสินค้าและบริการของคุณได้ พร้อม ๆ กับสร้างผู้คน แฟนคลับให้มาติดตามดู Live ของคุณอย่างต่อเนื่องและเป็นแฟนคลับที่เหนียวแน่นได้เลยครับ ซึ่งขั้นตอนการจัดถ่ายทอดสดไลฟ์ Livestream บนแอพ Facebook คือการถ่ายทอดสด “กิจกรรมทางการตลาด” และ “ปิดการขาย” หรือ “เพิ่มยอดขาย” โดยเทคนิคการทำเฟสบุ๊คไลฟ์ Facebook Live ให้ดัง หาตังค์ได้ชัวร์ ให้ดำเนินการดังนี้

เทคนิคทำเฟสบุ๊คไลฟ์ Facebook Live ให้ดังหาตังค์ได้ชัวร์

เทคนิคทำเฟสบุ๊คไลฟ์ Facebook Live ให้ดังหาตังค์ได้ชัวร์

1.เตรียมประเด็นที่จะพูดก่อนถ่ายทอดสด เตรียมการสร้างเนื้อหาที่จะเล่าใน Facebook Live ว่าจะเล่าเรื่องอะไร แล้วเจาะประเด็นนั้น ๆ เพียงอย่างเดียวไปเลย ไม่ต้องพูดหลายเรื่อง เพราะผู้ชมอาจจะหลงประเด็นและจำไม่ได้ว่าคุณตั้งใจจะพูดเรื่องอะไรตามหัวข้อที่คุณได้เกิ่นมาตอนต้น และอย่าลืมว่าเฟซบุ๊คจะเผยแพร่วีดีโอนั้นในเพจ หรือเฟซบุ๊คส่วนตัวของคุณหลังจากคุณกดปุ่ม Complete เมื่อสิ้นสุดการถ่ายทอดสด ถ้าพูดหลายเรื่องใน Live เดียว การสืบค้นวีดีโอย้อนหลังเพื่อดูเนื้อหา ก็ทำได้ยากขึ้น 1 Facebook Live 1 เรื่องพอครับ ดังนั้น เรื่องที่คุณจะพูด จะเล่าใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาทีสำหรับการ ทำ Live 1 ครั้ง เพราะเป็นเวลาที่คนดูจะมีสมาธิในการดูหรือจดจ่อในสิ่งที่คุณพูดได้ดี

การเตรียมให้เขียนเป็นสคริปซ์รายการเลยก็ได้ หรือทำเป็นหัวข้อสั้น ๆ ว่าจะพูดเรื่องอะไรบ้าง ลองพูดดูแล้ว แต่ละหัวข้อมีเนื้อหาหนาแน่นและใช้เวลาเท่าไหร่ในการพูดคุย แล้วลองคำนวณคร่าว ๆ สำหรับการ Live ในแต่ละครั้งต้องใช้เวลาเท่าไหร่ หากยาวเกินไปก็ตัดเนื้อหาบางส่วนออก

2.เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนทำ Facebook live การทำ Live อุปกรณ์ก็สำคัญไม่ใช่น้อย เพราะจะให้การถ่ายทอดสดผ่าน Facebook ลื่นไหล ไม่มีสะดุด คุณภาพเสียงและภาพคมชัด ช่วยให้การรับชมมีอรรถรสมากกว่าภาพไม่ชัด เสียงขาด ๆ หาย ๆ ข้อความหรือคำพูดที่คุณต้องการจะสื่อสารก็ขาดตอน อาจทำให้ผู้ชมเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนได้
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมพร้อม
(1) โทรศัพท์ Smartphone – กล้องสำหรับถ่ายวีดีโอต้องชัด มีหน่วยความจำมากพอ อย่าลืมชาร์แบตเตอรี่สำหรับการ Live ด้วย ไม่งั้นเครื่องดับ การ Live ก็ขาดตอน กว่าจะหาที่ชาร์จมา กว่าจะเชื่อมต่อเพื่อเริ่ม Live อีกครั้ง ผู้ชมก็หายไปหมดแล้ว
(2) อินเตอร์เน็ต – แนะนำเลยว่าหากเป็นมือต้องมีสัญญาญอินเตอร์เน็ตที่แรงมากพอ แนะนำให้ใช้โปร 3G หรือเชื่อมต่อผ่าน Wifi ออฟฟิตหรือที่บ้านก็ได้ ที่มีผู้ใช้ไม่มากเกินไปจนสัญญาณอินเตอร์ขาดตอนขณะทำการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live
(3) ไมโครโฟน – ปกติใช้ไมโครโฟนที่ติดตามกับ โทรศัพท์ Smartphone ก็ได้ แต่เพื่อความคมชัด เสียงไม่แตกพร่า ข้อความที่ถูกส่งไปชัดเจน การซื้อไมโครโฟนมาโดยเฉพาะก็จะยิ่งดียิ่งขึ้น
(4) อุปกรณ์เสริม อื่นๆ – คอมพิวเตอร์ มิกเซอร์สำหรับปรับเสียง และอื่น ๆ (ถ้ามีไม่มีไม่เป็นไร)
(5) อย่าลืมแต่งกายให้เข้ากับธีมของเนื้อหา หรือหากคุณมีธีมการแต่งตัวของคุณที่คนจำได้ก็ยึดตามนั้นได้เลย

3.จัดฉากหลังให้ดูดี ฉากหลังสำหรับการ Live นั้น จำเป็นต้องจัดฉากให้ดูดี ดูเรียบร้อย เพราะมันคือภาพลักษณ์ที่คุณจะแสดงออกไปสู่สาธารณะ หากจะถ่ายทอดสดในออฟฟิตก็ควรจัดวางอุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ ให้เข้าที่เข้าทาง หากจัดในห้องนอนของคุณก็ต้องเก็บของใช้สวนตัวให้มิดชิด บางชิ้นก็อย่าให้ประเจิดประเจ่อเกินไปแต่ผมมีคำแนะนำการจัดฉากหลังสำหรับทำ Facebook live ให้น่าดูยิ่งขึ้น ดังนี้
(1) ชั้นหนังสือ – มุมยอดนิยม แนะนำมุมนี้สำหรับเพจที่แบ่งปันเกี่ยวกับความรู้ หรือเพจที่เป็น Infopreneur คุณครู อาจารย์ ติวเตอร์ หรือนักวิชาการ นักกฎหมาย ฯลฯ
(2) สำนักงาน โกดัง ออฟฟิต หรือหน้างาน – ภาพที่มีคนทำงานอยู่เบื้องหลัง มีคนในสำนักงานเดินไป เดินมา ทำให้ภาพที่ออกมาดู Active มากขึ้น ดูมีชีวิต ชีวา มากกว่าผนังแข็ง ๆ เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารระดับสูง
(3) ร้านค้าของคุณ – การทำ Live เพื่อแนะนำหรือขายสินค้าแบบตรง ๆ ทำได้ ไม่ต้องอาย รายการโทรทัศน์ก็ยังมีช่องที่ขายสินค้าทั้งวัน ทั้งคืน ไม่แปลกที่เราจะทำ การใช้ฉากหลังเป็นบรรยากาศร้านค้า เห็นสินค้าที่ตั้งเรียงราย ทำให้ผู้ชมอยากติดตามว่าจะมีโปรโมชั่น หรือสินค้าอะไรที่น่าสนใจ และจะมีอะไรลดราคาบ้าง หรือบางครั้งการใช้บรรยากาศร้านหรู ดูดี เช่น ร้านกาแฟ ร้านเค้ก ร้านอาหารหรู เล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและปิดท้ายด้วยการจัดโปรโมชั่น และปิดการขาย ก็ทำได้เลย
(4) นอกสถานที – ไม่แนะนำให้ทำ เพราะเสียงรบกวนเยอะเกินไป มีหลายสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ถามว่าทำได้ไหม ได้นะ เช่นร้านอาหาร คอนเสิร์ต งานเทศกาล ต่าง ๆ
หมายเหตุ :ไม่จำเป็นต้องวางอุปกรณ์ประกอบฉากเดิมทุกครั้ง คุณสามารถเปลี่ยนมุม ไปถ่ายที่อื่นบ้างก็ได้ ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศ และภาพการทำ Live ไม่ซ้ำซากจำเจเกินไป

4.กำหนดเวลา มีอยู่ 2 ประเด็น คือ ความยาวในการถ่ายทอดสดแต่ละครั้ง และ เวลาในการเริ่ม ความยาว 20-40 นาที เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการเล่าเรื่อง 1 หัวข้อ สั้น ๆ กระชับ ได้ใจความ และคนเรามีสมาธิสำหรับการจดจ่อเรื่องใด เรื่องหนึ่งได้นานติดต่อกันประมาณ 30 นาทีก่อนจะถูกสิ่งอื่นรบกวนและลดความสนใจใน Live ของคุณ แต่ Facebook เองก็แนะนำให้ทำ Live นาน ๆ เพื่อที่จะได้มีผู้ชมมากขึ้น เวลาในการเริ่ม ที่มีผู้ชมมาก ควรเลือกเวลาที่กลุ่มเป้าหมายของคุณ แฟนเพจของคุณ หรือแม้แต่เพื่อนของคุณสะดวกในการรับชมมากที่สุด เพราะอย่าลืมว่าที่เราถ่ายทอดสดเพื่อให้เนื้อหาของคุณถูกเห็นและรับชมมากที่สุด เพราะการตลาดคือทำให้คนเห็นมากขึ้น

5.ใช้ชื่อ Live และเขียน Caption ที่ดึงดูดใจ สงครามฟีดข่าวใน Facebook คือการช่วงชิง Engage จากผู้ใช้ หัวข้อในการถ่ายทอดสด ต้องบ่งบอกเรื่องที่เล่าให้สั้นและเข้าใจได้เลยในทันที ว่าเป็นเรื่องอะไร พร้อม รายละเอียดสั้น ๆ ว่าจะพูดเรื่องอะไร แค่นี้คนที่เห็นฟีดก็จะรู้ทันทีว่าเป็นเรื่องที่เขาสนใจหรือเปล่า หากใช่เขาจะกดเข้ามารับชมการ Live ของคุณ ทันที

6.บอกแฟน ๆ ก่อนจะ Liveแจ้งเตือนในเพจก่อนจะ Live ว่าวันนี้เวลาไหน จะถ่ายทอดสดเรื่องอะไร มีรายละเอียดย่อ ๆ พร้อมพูดคุยและถาม ตอบ กันสด ๆ หรือเปล่า
(1) แจ้งในเพจของคุณ
(2)โพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัว
(3) Broadcast ผ่าน Line@
(4) แจ้งผ่านอีเมล์
(5) แจ้งในเว็บไซต์
หมายเหตุ : ช่วยให้แฟน ๆ ที่ติดตาคุณอยู่ รู้เวลาที่คุณจะถ่ายทอดสดเมื่อไหร่ เรื่องอะไร ที่ไหน

7.พูดเรื่องที่ ผู้รับชมได้รับคุณค่า แน่นอนว่าการทำ Live บน Facebook มันคือการทำการตลาดอย่างหนึ่ง แต่หากจะขายกันตรง ๆ เลยก็ยากที่มีผู้ชมคอยติดตาม Live ของคุณในครั้งต่อไปได้ เพราะว่าคนไทยส่วนใหญ่ ไม่ชอบโดนขาย หรือไม่ชอบการขายของ ทั้ง ๆ ที่เราก็ซื้อหาสินค้าหรือบริการต่าง ๆ กันอยู่แล้ว การปรับประยุกต์การตลาดผ่านเนื้อหา หรือ Content marketing คือทางเลือกในการนำเสนอสินค้าและบริการสอดแทรกเข้าไปใน Content นั้น ๆ เนื้อหาที่มีคุณค่า ไม่ใช่เรื่องความรู้เพียงอย่างเดียว แต่คือเรื่องที่ผู้ชมสนใจและประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นเป็น เรื่องตลก ที่ทำให้ผู้ชมอารมรณ์ดี ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ เรื่องตื่นเต้นที่ทำให้ผู้ชมได้ติดตามลุ้นไปด้วย แม้แต่เทคนิคหรือเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผู้ชมมองข้ามไป แต่คุณนำเอามาเล่าแบบง่าย ๆ ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้ นี่ก็เป็นเนื้อหาที่มีคุณค่า เช่นเดียวกัน

8.ทักทาย โต้ตอบกับผู้ชม เสน่ห์ในการทำ Live อย่างหนึ่งคือ คุณสามารถโต้ตอบกับผู้ชมได้ทันที ทันใด โดยไม่ต้องรอ คนที่เป็นผู้ชมก็จะรู้สึกเป็นคนสำคัญหากคุณโต้ตอบกับคนที่เข้ามาแสดงความเห็น ทักทาย หรือถาม-ตอบกับคุณ
(1) ทักทายตอนเริ่ม – พอเริ่มต้นถ่ายทอดสด สิ่งแรกที่ต้องทำคือทักทาย และดูว่ามีเข้ามารับชมบ้างหรือยัง ให้คนที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดของคุณแสดงความเห็น หรือกดไลค์หน่อย จะได้รู้ว่ามีคนเข้ามาดู ได้รับชมภาพและเสียงชัดเจน ไม่ใช่พอเริ่ม ก็พูดเรื่องที่เตรียมมาในทันที เพราะฟีดของการถ่ายทอดสดยังไม่ไปถึงแฟน ๆ หลายคนที่ติดตามคุณอยู่
(2) ตอบคำถามระหว่าง Live – ระหว่างการเล่าเรื่องหรือเนื้อหาที่คุณเตรียมมานั้นก็สังเกตปฏิกิริยาของผู้ชมด้วยว่ามีคำถามหรือคอมเม้นอะไรเข้ามาบ้าง ถ้าตอบได้ก็ให้ตอบ
(3) ตอบคำถามตอนท้าย – หลังจากที่คุณพูดเนื้อหาเรียบร้อย ช่วงท้ายสั้น ๆ ก็เปิดโอกาสให้ผู้ชมสามารถสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาเพิ่มเติมได้ คนที่เข้ามารับชมอาจไม่เข้าใจบางข้อ บางประเด็น ก็อธิบายขยายความในเรืองนั้น ให้ผู้ชมได้เข้าใจมากขึ้น
หมายเหตุ : เท่านี้การสร้างการโต้ตอบกับแฟน ๆ ที่รับชม Live ของคุณก็จะสนุก น่าจดจำ และได้ทำการตลาดตามที่คุณต้องการด้วย

9.เนื้อหาที่สอดคล้องกับเพจของคุณ จความของการทำการตลาดผ่านเนื้อหา หรือ Content marketing นั้น คือการเล่าเรื่องที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ชมกับสินค้าของคุณ โดยไม่
(1) พูดแต่เรื่องสินค้าของตัวเอง ผู้ชมก็ไม่สนใจ
(2) พูดแต่เรื่องของผู้รับชม สินค้าก็ไม่ได้ขาย
หมายเหตุ : ดังนั้น จงเชื่อมโยงตัวสินค้ากับผู้ชมเข้าด้วยกัน เช่น หากคุณขายสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ อาหารเสริม การเล่าเรื่องหรือนำเรื่องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย หรือเคล็ดลับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาการการกิน การออกกำลังกาย เรื่องเหล่านี้จะเชื่อมโยงเข้ากับตัวสินค้าได้ง่าย ต่ถ้าเป็นเพจขายอาหารเสริม และเล่าเรื่องท่องเที่ยว ก็จะโยงเข้าสินค้ายากกว่าหรือใช้เทคนิคการเล่าเรื่องเป็นตอน ๆ แบ่งเป็นซีรี่ย์ ให้ผู้ชมติดตามไปเรื่อย ๆ เรียกว่าทำ Pre-Marketing ก่อนเปิดขายสินค้าก็ได้

10.อย่าลืม Call to Action 10.อย่าลืม Call to Action
สุดท้ายหลังจากเล่าเนื้อหาที่เตรียมมาเล่าเรียบร้อยแล้ว ตอบคำถามแบบสด ๆ กับผู้รับชมแล้ว อย่าลืมสิ่งสำคัญที่จะให้ธุรกิจการค้าของคุณไปรอด และสร้างยอดขายได้ นั้นคือ สร้าง Call to action คือ คุณอยากให้ผู้ชมทำอะไร หลังจากพูดเนื้อหาและตอบคำถามเสร็จแล้ว บอกให้ Subscribe Facebook Live ของคุณ เพื่อที่คราวหน้า หากมีการถ่ายทอดสดแบบนี้อีกจากคุณ Facebook จะแจ้งเตือนไปที่คนที่กด Subscribe หรือติดตามบอกให้ซื้อสินค้า

หลังจากมอบเนื้อหาที่มีประโยชน์แล้ว หากคุณขายอะไรก็บอกผู้ชมไปเลย มีโปรโมชั่นอะไรวันนี้ ช่วงนี้ หากคุณอายที่จะขาย การทำ Live ก็ไม่เป็นแค่กิจกรรมทางการตลาดที่มีผู้ชมมากมาย แต่ไม่มีกิจกรรมทางการขายเลย เพราะปิดการขายไม่ได้ คุณไม่บอกว่าเพจของคุณขายอะไรนั่นเอง ดังนั้น อย่าอายที่จะขาย Live ครั้งหน้าเมื่อไหร่ นัดวันเวลาคราวหน้าว่าคุณจะ Live อีกครั้งเมื่อไหร่ เวลาไหน และโปรยหัวข้อที่มาเล่าให้ฟัง ให้ได้รับชม คนที่รับชมการ Live ครั้งหน้าจะได้รับอะไรระหว่างเวลาถ่ายทอดสด เพราะหากไม่ดึงดูดใจมากพอ หรือผู้ชมไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่จะได้รับครั้งหน้า เขาจะไม่ติดตามช่วงเวลาถ่ายทอดสด เพราะอย่าลืมว่าวีดีโอ Facebook Live สามารถย้อนกลับมาดูทีหลังได้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องมาดูสด ๆ หากไม่มีแรงจูงใจมากพอประโยคปิดที่สร้างการจดจำอย่าพูดว่า “แล้วพบกันครั้งหน้า สวัสดีครับ/ค่ะ” แต่จงสร้างสรรค์ประโยคที่เป็นตัวคุณ เพื่อสร้างการจดจำ คนจะจำคุณได้ หากสังเกตดูพิธีกรรายการทีวี มักมีคำพูดเริ่มต้นรายการและจบรายการ ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองทั้งนั้น คุณเองก็ไม่ต่างจากพิธีกรที่อยู่หน้ากล้องบนทีวีเลยดังนั้น สร้างประโยคที่เป็นของคุณในตอนเริ่ม และจบการ Live 

นำวิธีการที่อาจารย์แนะนำลองไปใช้ดูได้ผลเป็นคนดัง หาตังค์ได้ชัวร์

Share: